อย่างไร ส่วนรูปร่างและหน้าตาจัดได้ว่าไม่เคย อายใคร จริงๆ ไม่อยากชมตัวเองให้คนอื่นหมั่นไส้นะครับ ซึ่งด้วยรูปร่างและหน้าตาผมเอง มันเป็นที่มาของเรื่องนี้ ผมจำเหตุการณ์ทุกอย่างได้ดีไม่เคยลืมเลย ตอนนั้นราวๆ เกือบสองทุ่ม ซึ่งที่ต่างจังหวัดถือว่าดึกมาก ๆ ผมนั่งทำงานที่ไซน์ออฟฟิตจนเสร็จก้อต้องรีบบึ่งรถกลับบ้านพักเลย แต่คืนนั้นก่อนออก จากออฟฟิตไม่รู้อะไรดลใจ ผม หรือผมห่วงเรื่องงานมากเกินไปก้อไม่รู้ ผมเดินฝ่าความมืด ไปที่ไซน์งานที่เป็นโรงแรม สามชั้น ในนั้นมีช่างก่อสร้างทำโอทีอยู่ ซึ่งตอนเที่ยงพรุ่งนี้จะมีการตรวจรับงาน ผมเองเคยสั่งให้ช่างรื้อทำไหม่และกลัวว่าเค้าจะทำได้ไม่ดี ตามที่ตกลงกัน จึงแวะไปดูก่อนกลับบ้าน
ผมเห็นแสงไฟนีออนเปิดอยู่ สองช่วงเสา บนชั้นสามก้อรีบเดินดุ่มๆ เข้าไปข้างใน ตอนนี้เหลืองานปูกระเบื้องห้องน้ำซึ่งลวดลายมันจะแปลกพิสดารและปูยากพอสมควรผมเห็นช่างอยู่กันสามคน ตัวมอมแมมด้วยคราบปูน เหมือนกับทุกๆ ครั้งที่ผมเห็นนั่นหล่ะ เพียงแต่วันนี้ผมเห็นเค้าทำงานในช่วงกลางคืนเท่านั้นเอง เสียงเค้าคุยกันโหวกเหวก ฟังไม่รู้เรื่องหรอกครับ ผมเข้าใจว่ามันคือภาษาเขมร ผมเดินเข้าไปทุกคนก้อเงียบสนิท ผมได้กลิ่นเหล้าขาวโชยมา เตะจมูก “กินเหล้าทำงานอย่างนี้หน่ะเอง งานผมถึงต้องทุบแล้วทุบอีก คนของช่างอะไรครับเนี่ย ” ผมบ่นขึ้นมาเป็นประโยคแรกที่เดินเข้ามา ......ทุกคนเงียบ (ผมเองก้อปากไม่ดีตรงที่เป็นคนพูดตรง เกินไป )ผมเดินตรวจลวดลายงาน ว่าทำตรงกับแบบหรือเปล่า ...ทันใดนั้นผมรู้ตกใจเหมือนมีไรมากระแทกต้นคอผม ผมยังไม่ทันได้หันไปมองหรอก ก้อหมดสติ วูบไปเลยมารู้สึกตัวอีกทีผมก้อนอนอยู่กองกระสอบปูนซิเมนต์ รู้สึกหนักๆ หัวอยากลุกขึ้นแต่ลุก
ไม่ไหว ผมหรี่ตามองผ่านดวงไฟ มันสาดเข้ามาในตาจนผมต้องกระพริบตาถี่ ๆ... อ่านทั้งเรื่อง