เอามารวมไส่กล่องกระดาษซุกไว้ไต้โต๊ะแผงวางหนังสือแม๊กกาซีน รายเดือน รายปักษ์ พร้อม ๆ กับผมก็มีลูกค้าอีกหลายคน ต่างก็มาหาหนังสืออ่านกันตามปกติ ร้านนี้ มีคุณพ่อ คุณแม่ ลูกสาววัย 16 ปี และ น้องชายวัย 14 ปี คุณพ่อ คุณแม่ตอนนี้ไม่ได้อยู่หน้าร้าน ปล่อยให้ลูกสาวกับลูกชายดูแลแทน ทั้งสองนั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าร้านนั่งประจันหน้ากันอยู่ ผมหันหน้าไปตั้งใจจะถามหาหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งควรจะออกในวันนั้น แต่ผมหาไม่เจอ ผมก็เลยเห็นน้องชายวัย 14 ปี กำลังจับมือพี่สาววัย 16 ปี อยู่ บางทีก็ลูบแขนพี่สาวไปด้วย ผมมองดูแล้วก็ออกแปลกใจ ท่าทางของทั้งสองดูแปลกผิดปกติ น้องชายจ้องตาพี่สาว สักครู่พี่สาวก็เหลือบตามองดูบรรดาลูกค้าทั้งหลาย เห็นว่าต่างคนต่างก็ยังสนใจอยู่กับการอ่านหนังสือ การค้นหาหนังสือที่ต้องการอยู่
ก็เลยหันกลับมาขมึงตาไส่น้องชาย พร้อมทั้งปัดแขนน้องชายออกไป คล้าย ๆ กับ จะบอกว่า อย่ามายุ่งตอนนี้นะ คนเต็มไปหมด เดี๋ยวใครเค้าก็เห็นหรอก อะไรทำนองนั้น น้องชายก็สงบไป แต่ก็ยังเห็นทำหน้ายิ้มกริ่ม ไม่ได้แสดงความเกรงกลัวอะไร ผมเองก็รีบก้มหน้างุดลงกับกองหนังสือในกล่องกระดาษ ทำเป็นสาระวนหาหนังสือต่อ แต่ตาก็คอยชำเลืองมองดูพี่-น้องคู่นี้อยู่ ผมออกแปลกใจในกริยาท่าทางของพี่สาว-น้องชายคู่นี้ เขาทำท่าหยั่งกับว่าเป็นคู่รักกันหยั่งนั้นแหละ ตกลงวันนั้นผมก็เลยต้องจำใจซื้อหนังสือที่ไม่ค่อยจะถูกใจนักมาเล่มนึง รักกันแบบพี่ ๆ น้อง ๆ อีก 2-3 วันต่อมา ตอนบ่ายจัด ผมออกไปทำธุระกิจนอกสำนักงาน แล้วก็เลยถือโอกาสแวะไปที่ร้านหนังสือ
คิดว่าจะไปติดตามหนังสือเล่มนั้นที่มันไม่ออกตามกำหนด พอไปถึงหน้าร้าน ไม่มีใครอยู่ เห็นแต่กระเป๋านักเรียน กับเป้ไส่หนังสือเรียนวางทิ้งไว้บนโต๊ะ ทั้งร้านตอนนั้นไม่มีใครเลย ลูกค้าซักคนก็ไม่มี ด้วยความคุ้นเคย ผมก็เดินเรื่อย ๆ ไป เปิดประตูหลังร้าน ซึ่งเป็นทั้งห้... อ่านทั้งเรื่อง