จะกระทั่งเธอเริ่มเป็นสาวจึงไม่นอนค้างในห้องผมแต่ก็ชอบเข้ามาคลุกคลีในห้องผมเสมอๆ รวมทั้งโอบกอดผมอย่างสนิทชิดเชื้อเสมอ แหม่นเป็นเด็กที่เรียนหนังสือไม่ค่อยเก่ง กว่าจะจบชั้นมัธยมได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเลยครับ แล้วก็ไม่ได้เรียนต่ออีก เธอเข้าทำงานเป็นพนักงานขายของในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แต่ทำได้เพียงครึ่งปีก็ได้สามีเป็นเซลส์แมนที่มาติดต่อกับห้างแห่งนั้นเป็นประจำ แหม่มจึงย้ายจากบ้านผมที่บางซื่อไปอยู่กับสามีแถวพระโขนง แล้วต่อมาสามีของเธอได้พาไปอยู่ที่บุรีรัมย์ประกอบการค้าส่วนตัว แล้วค่ำวันที่31ผมก็ได้พบกับแหม่นหลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันเกือบ3ปี “คิดถึงน้าจังเลย” เธอบอกแล้วถลาเข้ามากอดผมอย่างดีอกดีใจ “น้าก็คิดถึงแหม่ม…” ผมตอบเบาๆ กอดเธอแค่หลวมๆเพราะเดี๋ยวนี้เธอไม่ใช่เด็กเล็กๆแล้ว วัย21-22ปีเป็นสาวเด็มตัว
และมีสามีแล้วด้วย “มาพักพับแหม่มหลายๆวันนะคะ แหม่มเหงาจะตายอยู่แล้วเดี๋ยวนี้” เธอบอกผมระหว่างกินข้าวด้วยกันที่ร้านอาหารชานเมือง “ทำไม่เรอะ?” ผมถาม พลางจิบเหล้าบางๆไปด้วย แกล้มกับอาหารอีสานรสแซ่บ “ก็ผัวแหม่มน่ะซีคะ ไม่ยอมให้แหม่มออกทำงาน ให้อยู่เป็นแม่บ้านเฉยๆแต่ตัวเขาเองทำงานจนไม่มีเวลาว่างเลยเดี๋ยวนี้ข้าม... อ่านทั้งเรื่อง