วันแรกที่ผมไปสอนก็รู้สึกประหม่าเพราะว่าเด็กสาธิตมักจะเป็นเด็กเฮี้ยวพอสมควร ครั้งแรกที่ผมเข้าสอนชั้นม.6 ผมรู้สึกเกร็ง ๆ เมื่ออาจารย์แนะนำผมให้นักเรียนได้รู้จัก ผมก็ให้นักเรียนแนะนำตัวเองให้ผมรู้จักเช่นกัน วันแรกเด็ก ๆ ก็เอาทำผมเกือบตายเหมือนกันเพราะเด็ก ๆ ส่วนมากมักจะเรียนกวดวิชามากันเกือบทั้งนั้น ดังนั้นความรู้ของพวกเขาก็มีมากกว่าหนังสือเรียน แต่โชคดีที่ผมเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ไปต่างประเทศมาบ้าง ดังนั้นผมจึงมีความมั่นใจในภาษาอังกฤษของผมอยู่พอสมควร
ผมสอนไปได้เรื่อย ๆ ผมก็เริ่มสนิทกับนักเรียนเกือบทั้งชั้น ม. 6 เพราะมีแค่ 2 ห้องเท่านั้น แล้วก็มีเด็กนักเรียนคนหนึ่งมาหาผมในห้องพักอาจารย์ "อาจารย์ครับ ถ้าผมจะขอให้อาจารย์ช่วยติววิชาภาษาอังกฤษให้จะได้ไหมครับ?" "ได้สิเอกราช แต่เธอก็เรียนใช้ได้แล้วนี่" "ก็แค่ใช้ได้ครับ แต่ผมอยากจะให้อาจารย์ช่วยติวสำหรับเอ็นทรานซ์น่ะครับ" "อืม งั้นก็ได้ เมื่อไรเธอสะดวก" "วันจันทร์เย็นนี้เป็นไงครับ?" "ได้เลิกเรียนแล้วครูตามเธอไปที่บ้านเลยล่ะกันนะ"
แล้วผมก็ได้ไปสอนพิเศษให้กับเอก เด็กนักเรียนคนหนึ่งของผม เอกเป็นเด็กตัวโต เพราะเป็นนักกีฬาว่ายน้ำของโรงเรียน อาจเป็นเพราะเอกต้องฝึกซ้อมบ่อยทำให้เอกไม่ค่อยมีเวลาไปติวพิเศษกับเพื่อน ๆ ผมสอนพิเศษเอกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ช่วงเย็น แล้ววันเสาร์กลางวัน ส่วนวันอาทิตย์เอกพักผ่อน ผมสอนเอกได้ประมาณ 2 เดือน เราก็สนิทกัน บางทีเราเรียนไป คุยกันไปบ้าง หลัง ๆ ผมก็พลอยสนิทกับครอบครัวของเอกด้วย ผมเป็นคนอยากให้ศิษย์ได้ดี บางทีผมก็ไม่รับเงินค่าจ้าง ทางบ้านเอกก็จะพาผมไปทานอาหารเย็นเป็นการตอบแทน บางทีพ่อแม่เอกไปต่างประเทศก็จะซื้อของมาฝาก ทำให้ผมไม่กล้าเอาเงินตอบแทนขึ้นไปอีก ช่วงหลัง ๆ บางทีเอกก็ขอให้ผมนอนค้างคืนวันศุกร์เพราะวันเสาร์ผมจะได้สอนเลย ไม่ต้องกลับหอ ผมก็ยินดีเพราะที่บ้านเอกมีแอร์แต่ที่หอผมไม่มี
เอกเป็นเด็กขยันเรียนและตั้งใจเรียน ดังนั้นเกรดของเอกจึงดีขึ้นเมื่อได้ผมมาเป็นติวเตอร์ พ่อของแม่ของเอกก็ดีใจและไว้ใจผมมาก
แล้วมีอยู่ครั้งหนึ่งพ่อกับแม่ของเอกต้องไปต่างประเทศ 2 สัปดาห์ ท่านทั้งสองจึงขอให้ผมมาอยู่ที่บ้านของเอก ทั้งช่วยดูแลเอก สอ... อ่านทั้งเรื่อง