ดิฉันนั่งฟังเงียบๆ ไม่มีการโวยวายเหมือนทุกครั้ง หากในใจตอนนี้มันทั้งท้อแท้และสิ้นหวัง ...... เช้าวันถัดมา พอประตูห้องเปิดออก พี่แก้วก็เดินเข้ามาดิฉันอยากซบลงร้องไห้กับอ้อมแขนของเธอ แต่ใน
ท่ามกลางความสิ้นหวังทั้งปวง ดิฉันได้แต่ข่มกลั้นตัวเองไม่ให้แสดงท่าทีอ่อนแอออกมา “เป็นไงบ้าง รุ้ง” เธอถาม ดิฉันขดตัวแน่นบนเตียง ยกมือกุมหัว “รุ้งต้องลุกขึ้นมานะ รุ้งจะได้พบกับคณะแพทย์วันนี้”
เธอดึงตัวดิฉันขึ้นมาอย่างอ่อนโยน แต่ก็มั่นคง พี่แก้วพาดิฉันไปยังก๊อกฝักบัว สบู่เหลวถูกฉีดเข้ามาที่ตัวและผม ดิฉันเงยหน้าปล่อยให้น้ำพ่นลงบนใบหน้า ดิฉันรีบล้างฟองสบู่อย่างรวดเร็ว พอฝักบัวปิดดิฉัน
ก็คว้าผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่ได้รับ ถูไปทั่วตัว และนวดผมอย่างกระฉับกระเฉง น้ำให้ชีวิตชีวากับดิฉันอย่างประหลาด ดิฉันถูกพากลับไปที่ห้องทั้งๆยังเปลือยอยู่ จากนั้นหลังอาหารเช้าดิฉันก็ถูกพาเข้าไปในห้องโถง
ดิฉันได้รับแจกเสื้อคลุมตัวใหญ่และรองเท้าผ้าคู่หนึ่ง สุรีพร พยาบาลคู่กัดคนเดิมเดินมาบอกกับดิฉัน “เอาละฟังนะ คุณจะต้องไปพบคณะแพทย์วันนี้ อย่าก่อเรื่องเดือดร้อนอีกล่ะ” เธอพาดิฉันออกไปตามทาง
เดินที่ไม่คุ้น ดิฉันพยายามใช้นิ้วหวีผมแทนหวี แต่มันยุ่งกระเซิงจนแกะไม่ออก การตรวจร่างกาย ถูกทำอย่างขอไปทีในที่โล่งๆ ดิฉันถูกเปลื้องผ้าจนเปลือยเปล่าอีกครั้งและนอนอยู่บนเตียง หมอถ่างขาดิฉัน
ออกและแหย่เครื่องมือเข้าไปตรวจ หน้าอกถูกบีบและเจาะท้องเอาเลือดไปตรวจ จากนั้นก็ถูกเรียกตัวไปพบคณะแพทย์ ดิฉันเดิน ส่ายอาดๆเข้าไป มีคนนั่งอยู่สี่คน คนหัวโต๊ะที่เป็นประธานหมุนปากกาเล่น
ขณะที่ดิฉันจ้องตาเขา “นั่งลง” เขาสั่ง “ฉันยืนดีกว่า” “คุณควรทำตามคำสั่งผม นั่งลง” ดิฉันนั่งลงตามที่เขาสั่ง “ผมหมอ พิทยา นั่น หมอวรัญ หมอพรเทพ และสุดท้ายหมอธีระ เอาละคุณแนะนำตัวเองได้”
“ดิฉัน คำแก้ว ชอบดี” “พอกันที” หมอวรัญขัดจังหวะ “เรารู้นะว่าคุณเป็นใคร” “แล้วจะมาถามหาหอกอะไรวะ” ดิฉันตะคอกกลับ “ฉันไม่เห็นสนว่าพวกแกจะเป็นใคร และพวกแกก็รู้อยู่แล้วว่าฉันเป็นใคร
ยังจะเสือกทำโง่ๆให้แนะนำตัวหาอะไรล่ะ” “คุณคือ ปรารถนา อิสรศักดิ์” “แล้วไง” “ทำไมคุณไม่ยอมบอกชื่อตัวเอ... อ่านทั้งเรื่อง