เวลาทุกวันก็กลับแปรเปลี่ยนไป บ่อยครั้งที่นิดาต้องรอคอยอย่างอดทนเพื่อเปิดประตูให้กับพ่อซึ่งโซซัดโซเซกลับมาพร้อ มกับกลิ่นเหล้าเหม็นคลุ้ง บ่อยครั้งที่พ่อล้มตัวลง นอนเหยียดยาวบนโซฟาในห้องรับแขกแล้วผลอยหลับไปทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า เรี่ยวแรงของนิดามีไม่มากพอที่จะพาพ่อขึ้นห้องนอน สิ่งที่นิดาทำได้ก็เพียงแต่เพียรเช็ดหน้าเช็ดแขนให้พ่อด้วยผ้าขนหนูชุมน้ำอุ่น รุ่งเช้าเมื่อพ่อสร่างเมาพ่อมักจะพร่ำแต่คำขอโทษ และสั่งมิ ให้นิดาถ่างตารอเพื่อปรนนิบัติพ่ออีก "กลับบ้านกันนะพ่อนะ" นิดาเอ่ยชวนด้วยเสียงปนสะอื้น "พรุ่งนี้เช้าค่อยมาเก็บ.....กระดูกแม่แต่เช้า" นิดาอึกอักอยู่นานกว่าจะหลุดคำว่า "กระดูก" ออกมาได้ พ่อลุกขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง จนนิดาต้องเข้าประคอง พ่อลูกเดินเคียงกันผ่านศาลา ตั้งศพซึ่งร้างราผู้คน บรรยากาศในวัดดูเหมือนกันไปหมด มันแฝงไว้ด้วยความเศร้าซึมและเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความตายลอยแซกอยู่ ในเกือบทุกอนูอากาศ"หนูขับรถให้...พ่อนั่งพักให้สบายนะคะ" นิดาขันอาษา ซึ่งผิดไปจากปกติที่นิดาจะไม่ยอมขับรถในกรุงเทพยกเว้นใน กรณีที่จำเป็นจริง ๆ แม้ว่านิดาจะเป็นนักขับรถที่มีฝีมือแต่หล่อนกลับพ่ายแพ้กับสภาพการจราจรที่ยุ่งเหยิง ไร้ระเบียบในกรุงเทพมหานคร สองพ่อลูกมิได้เอ่ยปากพูดกันแม้แต่คำเดียวในระหว่างทางจากวัดจนถึงบ้าน นิดาส่งให้พ่อลงที่หน้าบ้าน... อ่านทั้งเรื่อง