“น้าสร้อยยืมรถวันเสาร์ได้ไหม”
“จะเอาไปไหน” น้าสร้อยที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่พูดตอบ
“จะเอาไปเที่ยวกับเพื่อนบนเขา จะตั้งเต้นค้างกันคืนนึง”
“ไปทำไมช่วงนี้ ฝนตกทุกวัน หนทางก็ลื่น แกก็เพิ่งหัดขับรถด้วย”
“อาจจะไม่ตกก็ได้ อย่างวันนี้ยังไม่ตกเลย” ผมเข้าไปบีบๆนวดๆไหล่เอาใจน้าสร้อยแก
บ้านผมเป็นร้านขายมะพร้าวเล็กๆ มีเพียงกะบะคันเดียวที่แม่กับน้าสร้อยช่วยกันออกเงินซื้อ น้าสร้อยอยู่บ้านผมมานานแล้วตั้งแต่แกเลิกกับผัวมา แกเป็นคนขยัน ทำงานหนักแต่ก็แปลกที่แกทำงานหนักๆแบบนี้แต่กลับไม่ผอม น้าสร้อยเป็นคนที่อวบๆ ผิวขาว ทั้งหน้าอกและก้นของน้าสร้อยเป็นอะไรที่สะดุดตาผู้ชายแถวบ้านผมทุกคน ไม่มีใครที่จะไม่แอบมองนมเต้าใหญ่ๆของแก
“ถ้าสัญญาว่าจะขับช้าๆ ก็จะให้” น้าสร้อยหันมาทำหน้าจริงจัง
ผมดีใจที่จะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ โทรบอก ไอ้สน ไอ้เฮง ให้เตรียมของให้พร้อม ภูเขาที่ผมจะไปขับรถไปจากตัวเมืองชั่วโมงเดียวก็ถึง มีที่ตั้งเต้นให้สำหรับนักท่องเที่ยว ยิ่งช่วงหน้าหนาวละก็คนจะมาเยอะเชียว แต่หน้าฝนแบบนี้คงจะไม่มีคนหรอก
เช้าวันเสาร์ผมตื่นแต่เช้าเอาของขึ้นรถและกำลังจะเตรียมขับไปรับเพื่อน แต่ก็ต้องแปลกใจที่น้าสร้อยโยนกระเป๋าของแกใส่ท้ายรถด้วย
“กระเป๋าอะไรน้า”
“ของน้าเอง เบื่ออยู่บ้าน ขี้เกียจฟังแม่แกบ่น ไปสูดอากาศบนภูเขาด้วยคนดีกว่า” ผมก็คิดว่าดีไม่น้อย น้าสร้อยแกขับรถชำนาญกว่าผมแถมได้คนทำกับข้าวให้ด้วย
ผมนั่งหน้ากับน้าสร้อยส่วนเพื่อนอีกสองตัวก็นั่งแคปตรงหลังเบาะ
“มีเต้นท์แค่เต้นท์เดียว แล้วจะให้น้าเขานอนยังไง” ไอ้เฮงพูดขึ้น
“ไปเช่าเอาข้างบนก็ได้” ไอ้สนบอก
“แล้วใครเอาอาหารมาบ้างเนี้ย” ผมถามพวกมัน
“เอามาเยอะเลยแหละ ” ไอ้เฮงบอก
“งั้นเดี๋ยวน้าขอเป็นแม่ครัวเองนะ“ น้าสร้อยที่กำลังขับรถขึ้นเนินพูดมา แต่ฝีมือน้าสร้อยต้องยอมรับว่าอร่อยจริงๆ พวกผมโชคดีแล้วที่มี แม่ครัวหัวป่ามาด้วยทริปนี้
ผมมองไปนอกหน้าต่างเห็นบ้านเรือนที่อยู่ด้านล่างเล็กนิดเดียว เริ่มมีหมอกจางๆลงมาปกคลุมรถ รถจอดหน้าที่สำนักงานของพนักงานป่าไม้ จ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆและเ... อ่านทั้งเรื่อง