สังเกตได้ว่าเธอไม่ค่อยพิถีพิถันเรื่องการแต่งหน้าแต่งตัวเท่าไหร่เพราะยังมองเห็นสิวหลายเม็ดเหมือนกันบนใบหน้าของเธอ บุคลิกท่าทางน่าจะเป็นเด็กเรียน ฝ่ายบุคคลบอกว่าเธอเกือบได้เกียรตินิยมอันดับสอง ขาดไปแค่ไม่กี่จุดเอง พอได้คุยกัน เอก็เล่าว่าเธอเป็นเด็กต่างจังหวัด สอบโครงการของจุฬาฯได้ทุนมาเรียนปริญญาตรี จึงมาอยู่หอพักจุฬาฯจนเรียนจบ แล้วมาสมัครงานที่นี่ซึ่งเธอก็ดีใจมากที่สมัครงานที่แรกก็ได้เข้าทำงานเลย... ตั้งแต่นั้นเราก็คุยและเริ่มสนิทกันมากขึ้น เนื่องจากทางกลับบ้านผมต้องผ่านหอจุฬาฯอยู่แล้ว(เธอยังไม่ได้ย้ายออกจากหอ) จึงให้เธอนั่งรถกลับด้วยกัน จนวันนึงเธอเอ่ยปากกับผมว่าเธอต้องย้ายออกจากหอแล้วเพราะทางจุฬาฯต้องเคลียร์ห้องเพื่อให้นิสิตใหม่เข้าอยู่ ผมจึงขับรถไปเป็นเพื่อนเธอย้ายของออก โดยเธอย้ายไปอยู่หอพักกับเพื่อนแถวๆพุทธมณฑล จากวันนั้น
ผมก็ไปส่งเธอที่พุทธมณฑลเกือบทุกวัน ความสนิทสนมมีมากขึ้นจนผมกล้าจับมือถือแขนเธอ แต่เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ เธอจะไม่ยอมให้ผมถูกตัวโดยเด็ดขาด ดูๆแล้วเธอค่อนข้างขี้อายและหัวโบราณอยู่เหมือนกัน ผมก็ไม่ว่าอะไร ช่วงหลัง เวลาไปส่งเธอ ผมจะจอดรถแถวๆสวน(ย่านพุทธมณฑลยังมีสวนอยู่สองข้างถนน)แล้วนั่งคุยกับเธอก่อนส่งเธอขึ้นหอ จนวันนึงผมลองหอมแก้มเธอ ดูว่าเธอจะว่าอะไรหรือเปล่า เธอก็นั่งหน้าแดงเงียบอยู่ ผมก็คิดว่าเธอคงต้องชอบผมแน่ๆ ก็เลยดึงเธอมานอนหนุนตัก ทีนี้พอศีรษะเธอมานอนอยู่เหนือเป้ากางเกงมันก็เลยทำให้ไอ้ท่อนเอ็นที่อยู่ในกางเกงมันแข็งขึ้นมาสิครับ ผมก็เริ่มอึดอัด เลยลองใจเธออีกครั้งโดยล้วงมือเข้าไปในเสื้อเธอ เธอหันควับมามองหน้าผม
ผมทำไม่รู้ไม่ชี้ชวนคุยเรื่องอื่นไปเรื่อยๆแต่มือที่ล้วงไปในเสื้อมันบีบเคล้นอยู่บนเสื้อชั้นในที่ห่อหุ้มสองเต้าของเธอ... อ่านทั้งเรื่อง