ผมมีญาติผู้น้องคนหนึ่ง ชื่อฝน เธอสติ สตังค์ ไม่ค่อยสมประกอบเท่าไหร่นัก จะสัก 70 – 80 ประมาณนั้น แต่ด้วยความยังเด็ก เราๆ ในบรรดาญาติๆ ก็ไม่ได้คิดอะไรมากกับการไม่สมประกอบของยายฝน ยังคงถือว่าเล่นกันได้ ตามประสาเด็กบ้านนอก ไอ้ความที่ว่าเด็ก (จะว่าเด็กก็ไม่เชิง เพราะต่างคนก็13 -14 ปีกันหมดแล้ว ) แล้วยิ่งเป็นเด็กบ้านนอกชนบท อุปกรณ์เครื่องเล่นอะไรอะไรต่างๆ ก็ใช่จะมีเหมือนสมัยนี้ อย่างมากก็เล่นวิ่งไล่จับ เล่นขายของ พอเล่นกันนานๆ เหนื่อยก็ไปหาของกินในครัว อาบน้ำอาบท่า แล้วนอน ซึ่งวันนี้ก็เช่นทุกๆครั้ง คือ เมื่อเล่นกันเหนื่อยได้ที่ ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านหาของกินแล้วก็นอน แล้วก็บ้านนอกๆอย่างพวกเรา ไม่ต้องกลัวขโมยขโจรอะไร อยากนอนตรงไหนก็นอน ไม่มีอะไรน่ากลัวเหมือนสมัยนี้หรอก ยายฝน อย่างที่บอก นอกจากจะไม่ค่อยเต็มเต็งกับเค๊าแล้ว มันยังนอนไม่เลือกที่ พอหลับแล้วก็หลับเป็นตาย จะปลุกให้ตื่นง่ายๆ
นั้นยาก วันนี้ มันเลือกนอนในโรงเก็บฟาง ข้างบ้านผม ตอนแรกๆ ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมันมาก พอกินอะไรอิ่ม อาบน้ำอาบท่าก็อยากจะนอนกับเค๊าบ้าง พอดีก่อนนอน พ่อผมกับแม่ผมก่อนที่ท่านจะไปหาเก็บผักบุ้งกลางทุ่ง ก็ สั่งให้เอาฟางไปให้ไอ้เบือกควายสีเทาตัวโปรดของครอบครัวกินให้อิ่มก่อนแล้วค่อยนอน ผมก็ยอมทำตามที่ท่านทั้งสองบอก เพราะถือเป็นวานเบาๆที่พอจะช่วยเหลือได้ ก็จัดแจงเข้าไปที่โรงเก็บฟาง พอเข้าไปก็เห็นยายฝนมันนอนหลับไม่เป็นท่าอยู่ในโรง เห็นแล้วก็ยังเฉยๆ ไม่สนใจจะแกล้งอะไรมัน จัดแจงทำธุระให้เสร็จจะได้ไปนอนเสียที .... พอเอาฟางไปให้ไอ้เบือกกินเสร็จ ความนึกสนุกพิเรนก็ปิ๊งขึ้นมาในสมองว่า.... เอ.....อี่ฝนมันนอนหงายเหงือกอยู่ในโรงฟางนี่นา หาอะไรเล่นสนุกๆดีกว่า อีนี่ ยิ่งได้หลับแล้ว ยิ่งหลับไปนานเท่าไหร่ยิ่งหลับลึก...... ... เมื่อคิดเช่นนั้นได้เสร็จ ผมค่อยๆ ย่องเข้าไปในโรงเก็บฟาง...ยืน... อ่านทั้งเรื่อง