เพราะหลังจากที่คลอดลูกคนที่สอง เธอค่อนข้างจะกินแบบไม่ระมัดระวังเลย เลยทำให้สร้างอารมณ์กันยากหน่อย ไหนจะงานมาก กลับมาบ้านกว่าจะเอาลูกเข้านอน เราทั้งสองคนก็เหนื่อยแทบลมใส่แล้ว ส่วนผมโดนสั่งให้ไปทำหมันอย่างเรียบร้อยโรงเรียนจีนไปแล้ว ส่วนใหญ่ก็อยู่กันแบบเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากกันมากกว่า นานๆจะมีอารมณ์หลับนอนด้วยกันสักที ส่วนใหญ่ต้องการสร้างชีวิตที่ดีให้ลูกๆมากกว่า เรียกว่าใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย โฟกัสไปอยู่ที่ความเป็นครอบครัวเสียมากกว่า จนกระทั่งน้องภรรยาของผมชื่อหลิน เธอกำลังเรียนปริญญาตรีปลายเทอมสุดท้าย ที่มหาลัยเอกชนชื่อดังแถวกล้วยน้ำไท อายุเพิ่งจะพ้น 21 มาหมาดๆ
หลินย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านประมาณสี่เดือนสุดท้ายก่อนที่จะเรียนจบ เพราะเพื่อนที่แบ่งเช่าหอพักใกล้มหาลัยชิงย้ายออกไปก่อนที่เธอจะเรียนจบ บ้านผมเป็นบ้านเดียวที่อยู่ในกรุงเทพฯ และอยู่ใกล้มหาลัยที่หลินเรียนอยู่ที่สุด ก็เลยต้องรับหลินมาช่วยเหลือโดยปริยาย แรกๆผมก็ไม่อยาก จะคิดอะไรมาก เพราะเห็นว่าเป็นน้องภรรยาซึ่งเห็นกันมาตั้งแต่เธอเป็นเด็กๆ จนกระทั่งโตเป็นสาวเต็มตัว หน้าตาของหลินไม่ถือว่าสวยปิ๊ง แต่ออกจะน่ารักซะมากกว่า สรีระของหลินเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ จากเด็กผูกคอซองที่เคยเห็น มาใส่ชุดนักศึกษา(แบบรัดรูป) ทำให้ผมคิดมิดีมิร้ายกับเธอในฝันหลายครั้ง แต่ต้องพยายามสะกดใจให้อยู่ เพราะกลัวเสียภาพพจน์ดีๆ ที่มีต่อพ่อตา-แม่ยาย
ผมก็เลยไม่อยากจะคิดอะไรให้ฟุ้งซ่าน แต่เห็นหลินในชุดนักศึกษาทีไร มันเริ่มจะมีความคิดอุบาทว์ ก็จะไม่ให้คิดได้ไงล่ะครับ เพราะหลินเธอเอวบาง ร่างเล็กกระทัดรัด แต่อวบสุดๆ เอวเป็นเอว อกเป็นยิ่งกว่าอก สะโพกเป็นสะโพก สูงประมาณ 150 ซม. หนักสัก 40 โล(กำลังน่าอุ้มเลยครับ) เอวไม่น่าจะเกิน 23 นิ้ว สะโพกประมาณ 3... อ่านทั้งเรื่อง