กล่าวถึงขุนช้างหัวล้านกบาลใส หลังจากที่พลาดโอกาสสู่ขอพิมพิลาไลย แถมถูกพิมพิลาไลยเสือกไสไล่ส่งจนขนขบวนกลับมาแทบไม่ทันแล้ว แต่ละวันก็เฝ้าทอดถอนใจ นั่งตาลอย เห็นแต่ภาพพิมพิลาไลย มาลอยอยู่ตรงหน้าตลอดเวลา จนไม่เป็นอันทำอะไร จะลุกจะนั่งก็เห็นแต่ภาพของพิมพิลาไลย จนในที่สุดก็คิดแผนได้ ขุนช้างแสนจะดีใจ ลุกขึ้นเต้นรำร้องเพลงจนกระทั่งบ่าวไพร่ต้องมามุงดู เพราะคิดว่าขุนช้างเป็นบ้าไปแล้วด้วยความรัก ขุนช้างหลังจากเต้นรำฮาไวจนกระทั่งเหนื่อยแล้วก็เห็นบ่าวไพร่มามุงดูตน พร้อมวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นาๆ ก็โกรธ ไล่ตะเพิดพวกบ่าวไพร่จนกระเจิดกระเจิงผ้าผ่อนหลุดลุ่ยเปิดตูดขาวไปตามๆ กัน พอไล่พวกบ่าวจนเหนื่อยก็นั่งลง แล้วตะโกนเรียกบ่าวคนหนึ่งมา แล้วค่อยๆ กระซิบให้งานบ่าวคนนั้น ไปทำงานมา โดยคาดโทษว่าถ้าไม่สำเร็จจะต้องโดนโบยด้วยหวาย เมื่อสั่งความเรียบร้อยแล้ว ขุนช้างก็นั่งลงทำท่ากระหยิ่มยิ้มย่องในใจ พลางนึกถึงพิมพิลาไลยต่อไป
เวลาผ่านไป 2 วัน ขณะที่ขุนช้างกำลังนอนให้บ่าวทุบขา หลังไหล่ให้นั้น
บ่าวคนนั้นก็วิ่งกระหืดกระหอบมารายงานข่าว พอได้รับช่าวนี้ ขุนช้างก็รีบตะโกนบอกบ่าวไพร่ให้จัดขบวนอีกครั้ง แล้วรีบยกขบวนออกจากบ้าน พลางมุ่งหน้าไปยังบ้านของนางศรีประจันในทันที
ข้างฝ่ายนางศรีประจันนั้น หลังจากที่ได้รับการนำเสนอจากขุนช้างถึงแก้วแหวนเงินทองมากมายมหาศาลนั้น ถึงแม้จะได้รับฟังคำบอกเล่าจากบ่าวว่า ขุนช้างนั้นมีเมียน้อยมากมาย แต่ก็ยังคิดว่า คนที่ร่ำรวยจะมีเมียน้อยหลายคนก็ไม่แปลก ในใจของนางนั้นอยากที่จะได้ทรัพย์สมบัติมาก จนถึงกับยอมได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้ขุนช้างมาเป็นเขย พอบ่าววิ่งเข้ามารายงานว่า ขุนช้างยกขบวนขันหมากมาอีกครั้ง นางศรีประจันแสนจะดีใจ แต่ต้องรักษาฟอร์มไว้ แกล้งทำเป็นเดินมารับขุนช้างที่หน้าเรือน พร้อมกับทำหน้าเฉยๆ ไม่ยินดียินร้ายกับการยกขบวนขันหมากของขุนช้าง
ขุนช้างเมื่อมาถึงยังบ้านของนางศรีประจันก็รู้สึกแปลกใจกับท่าทีของนางศรีประจัน ซึ่งผิดไปจากตอนที่มาครั้งที่แล้วหน้ามือเป็นหลังตีน แต่ด้วยความรักมันกระพือในอก ขุนช้างจึงทำหน้าระรื่น แล้วทักทายไป
“สวัสดีครับ คุณน้า วันนี้ผมจะมาสู่ขอน้องพิมพิลาไลยน่ะครับ หวังว่าคุณน้าคงไม่รังเกียจ ส่วนข้อเสนอนั้นยังเหมือนเดิมทุกประการ”
นางศรีประจันก็รู้สึกแปลกใจเช่นกันว่าขุนช้างไม่น่าจะระรื่นขนาดนี้ ถ้ามีเมียน... อ่านทั้งเรื่อง