ไข่หวานบ้าง หนุ่ม ๆ ติดกันกรอ ส่วนมากเป็นพวกทหารเรือรุ่นกระทง เพราะพ่อของเธอเป็นพันจ่าเอกที่มีเลือดน้ำเค็มเต็มตัว เป็นคนประเภท
ปากว่ามือถึง จึงทำให้หนุ่ม ๆ ครั่นคร้าม ได้แต่กระหายเย็นอยู่แต่ในใจ ผู้ที่โชคดีเข้าใกล้สนิทเย็นเป็นคนแรกคือ จ่าล้อม ซึ่งเย็นทำท่าจะเออออ
ห่อหมกด้วย แต่แล้ววันดีคืนดีก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มเด็กน้อยเข้าสะเอวมาขอร้องเย็นให้เลิกติดต่อกับจ่าล้อมซึ่งเป็นสามี
คนเดียวของเธอ เย็น
จึงผิดหวังในความรักเป็นครั้งแรก เกิดความอับอาย ประกอบกับพ่อได้แม่เลี้ยงทำท่าจะลุ่มหลงจนไม่สนใจเธอ เย็นจึงบอกลาพ่อขอมาอยู่กัน
น้าชายที่พระประแดง
เมื่อมาอยู่กับน้าชายไม่กี่ปี เย็นก็ได้งานเป็นเซลล์เดินตลาด อาศัยความอุตสาหะเย็นก็มีรายได้จากเปอร์เซ็นต์มาเป็นเงินเดือนจนมีหลักฐานดีขึ้น
เย็นสนิทสนมกับเพื่อนหญิงร่วมงานสองสามคน ก็ปรึกษากันมาหาบ้านเช่าอยู่ร่วมกันใกล้ที่ทำงาน น้าชายก็ไม่คัดค้านเพราะเย็นก็มีอายุมากขึ้น
พอปกครองตัวเองได้แล้ว จนกระทั่งปัจจุบันเย็นซึ่งเปลี่ยนชื่อมาเป็นเย็นจิตก็มีอายุ 30 ปีเศษ เป็นสาวใหญ่เรือนร่างก็ใหญ่ไปทุกส่วนสัด แต่
เย็นจิตซึ่งมีแผลหัวใจมาแล้วจึงไม่สนใจผู้ชายคนใดทั้งสิ้น
ต่อมาเพื่อนสาวที่เช่าอยู่รวมกันต่างก็แต่งงานย้ายออกไปหมดจึงเหลือเย็นอยู่คนเดียว ก็พอดีนางแม้นเพื่อนบ้านที่เย็นจิตรักใคร่นับถือยิ่งกว่า
ญาติสนิทที่สัตหีบได้จดหมายขอฝากเจ้าหนุ่ยหรือมนัส ลูกชายคนเดียวซึ่งเรียนจบมศ. 5 แล้ว จะเข้ามาเรียนต่อมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ไม่
อยากให้อยู่กับเพื่อน ๆ หรือเช่าหอพัก กลัวจะเสียผู้เสียคน เย็นจิตดีใจที่จะได้คนมาอยู่เป็นเพื่อน และโดยเฉพาะเจ้าหนุ่ยคนนี้เป็นเด็กที่เธอเคย
อาบน้ำประแป้งมาให้แต่เล็ก ๆ มีความผู้พันธ์เหมือนหลานแท้ ๆ อยู่แล้ว
เธอรีบจดหมายตอบไม่ขัดข้องไปยังนางแม้นทันที
เย็นจิตระลึกถึงอดีตสมัยเธอรุ่นสาว เจ้าหนุ่ยอายุราว 5-6 ขวบ เป็นเด็กซน รักใคร่เธอมาก เจอะหน้าทีไรเป็นกระโดดกอดคอ จูบเธอเป็นประจำ
เธอก็รักเหมือนหลาน ปรานีตลอดมาเพราะเจ้าหนุ่ยกำพร้าพ่อ แม่ก็ทำงานตัวเป็นเกลียว เธอมีส่วนช่วยอุปการะดูแลพอ ๆ กับนางแม้น
เย็นจิตไม่ได้พบหน้าเจ้าหนุ่ยมา 10 กว่าปี เธอจึงดีใจที่จะได้หลานชายมาอยู่เป็นเพื่อน กำหนดวั... อ่านทั้งเรื่อง