กระจ่างใส ทายาทหญิงฝ่ายธรรมะ
.........................................................................
..
ในสวนอุทยานด้านในแห่งราชสำนักถัง
..
ซือเฟยเซวียนในชุดขาว สะบัดกระบี่รูปศูนยตาเป็นบุปผาสีเงินยวง
ประกายกระบี่สะท้อนแสงแดดระยิบระยับ ลมปราณกระบี่แฝงเคล็ด
วิชาใจกระจ่างแจ้ง
ประกายของคมกระบี่กรีดวาดเป็นรุ้งยาวสายหนึ่ง เมื่อรุ้งยาวสายแรก
สิ้นสุด รุ้งยาวสายที่สองก่อกำเนิดสืบเนื่องกลมกลืน สำนึกกระบี่แนบ
เนียนไร้รอยต่อช่องว่าง
..
ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วยาม
ในกระบวนท่าสุดท้าย ซือเฟยเซวียนก้าวเท้าตามจิตสำนึก มือเรียวงาม
ควงบุปฝากระบี่คลี่ออกอย่างพิสดาร คลื่นพลังอ่อนช้อยแผ่กระจายเป็น
วงกว้าง ต้นไม้ใบหญ้า บ่อน้ำลำธาร ล้วนได้รับผลกระทบ ทั้งหมดเอนไหว
เป็นระลอกคลื่นไล่ซ้อนกันออกไป ขณะที่ซือเฟยเซวียนรั้งกระบี่เข้าหาตัว
ภายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็น ซือเฟยเซวียนใส่เสื้อรัดแขนสีขาวนวล คลุม
ทับด้วยเสื้อกั๊กสีเหลืองอ่อน คลุมผ้าคลุมไหล่สีขาว และกระโปรงยาวสีครีม
ใช้สายรัดแพรลายดอกสีน้ำตาลเข้มรัดเอว
สีหน้านางสงบราบเรียบ สองแก้มแดงระเรื่อตามวัยดรุณี ปีนี้นางอายุสิบเจ็ด
แววตาเปล่งประกายบริสุทธิ์หลุดพ้น ดวงหน้าหมดจดคล้ายเทพธิดาจุติลงจาก
ฟ้า อกอูมตูมตั้งเชิดท้าทายผู้คน
ซือเฟยเซวียนระบายลมหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน... นางรำพึงเบา ๆ ว่า
"นี่เป็นความสำเร็จขั้นสูงของสำนัก... สภาวะกระบี่ต่อเนื่อง จิตใจกระจ่างใส
ตัวเราซือเฟยเซวียนผ่านด่านจิตใจได้อีกระดับหนึ่งแล้ว...."
ในความเหน็ดเหนื่อยแฝงรอยยิ้มเล็กน้อย
.....................................................................................
จากนั้น ซือเฟยเซวียนก้าวเท้าเดินเข้าในดงไม้ นั่งยอง ๆ ลง ถลกกระโปรงยาว
แล้วขับปัสสาวะออกเป็นธาตุหล่อเลี้ยงพื้นดิน
พอดีประจวบเหมาะ เจ้าฉินอ๋อง นามว่า หลี่ซื่อหมิน เดินผ่านมาทางด้านนี้...
หลี่ซื่อหมิน อายุเพียงยี่สิบปี แต่ได้รับการขนานนามว่าอัจฉริยะวัยเยาว์ เขาเป็น
ผู้สืบเชื้อสายตระกูลขุนนางชั้นสูงแซ่หลี่ บัดนี้ถึงกับชะงักงัน กะพริบตาหลายครั้ง
กับภาพเบื้องหน้า
ซือเฟยเซวียนนั่งหันหน้ามาทางเขา ตาคู่งามสบประสาน นางยังคงนั่งอยู่ในท่าเดิม
หลี่ซื่อหมินรีบประสานมือคำนับ พูดอย่างสำ... อ่านทั้งเรื่อง