ท่างสุภาพแต่ดิฉันก็ประหม่าไม่กล้าสบตา ก็ดิฉันยังไม่ได้ตั้งตัวเลย ประกอบกับสามีแอบนัดหมาย ถึงคุณวุธโดยไม่บอกดิฉันก่อน แถมยังอุตริส่งรูปดิฉันสวมอันเดอร์แวร์โชว์แสรดดดด!!!ส่วน 34 " 26" 36" ใส่ซองไป ด้วยอีก ใครจะถือเป็นเรื่องปกติได้ล่ะค่ะ ดิฉันตั้งใจว่าขอเป็นเพื่อนคุยกันก่อนและขอตั้งให้เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาก็คง ไม่ขัดข้องอะไร แต่ที่ไหนได้ พอทานอาหารเสร็จคุณวุธก็ชวนไปต่อ ดิฉันเริ่มสั่นหน้าร้อนวูบวาบ ขอตัวว่าวันนี้ขอ กลับบ้านก่อน คุณวุธบอกว่าไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวเดียวก็กลับแล้วไปคุยกันก่อน เขาเอามือมาแตะที่หลังดิฉัน เบาๆ อย่างสุภาพให้ขึ้นรถแท็กซี่ สามีก็บอกไปเถอะ ไม่ต้องกลัว พอไปถึงที่พักของเขาดิฉันก็ทำอะไรไม่ ถูก นั่งนิ่งตัวแข็ง ใจคิดว่าวันนี้เราทำอะไร เราทำผิดหรือถูก เรากำลังจะกลายเป็นผู้หญิงที่ปราศจากความดีงาม ติดตัวงั้นหรือจะเป็นแม่ที่ไม่มีคุณค่าสำหรับลูกหรือเปล่า และภาวนาในใจว่า เจ้าประคุณขอให้ดิฉันได้กลับไปบ้าน โดยยังมีความ
บริสุทธิ์ผุดผ่องให้สามีเหมือนเดิมด้วยเถิด วันนี้อย่าให้อะไรๆเกิดขึ้นกับดิฉันเลย คุณวุธส่งผ้า เช็ดตัวให้ดิฉัน ดิฉันกลัวมากพูดไม่ออก ส่ายหน้าแทน เขาเห็นท่าทางไม่ดีเลยตามใจพากลับ เราจึงลาจากกัน ดิฉันนึกเห็นใจเขามากเลยและแอบชมเขาอยู่ในใจ แต่จะทำอย่างไรได้ ก็ดิฉันบอกแล้วว่าวันนี้ไม่พร้อมเขาก็ไม่ยัง ไม่ฟังนี่นา ต่อมาสามีได้นัดหมายอีกกับคุณวุธเราได้รับคำตอบขอบคุณและบอกว่าถ้าเข้ากรุงเทพฯจะ โทร. มาและแล้ว เมื่อ 10 กันยายน คุณวุธก็โทรมา ดิฉันรับสาย... อ่านทั้งเรื่อง