ช่วงสองสามวันแรกยังไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นซักเท่าไหร่
แต่อยู่มาวันนึงผมกลับมาจากทำงานกำลังจะขึ้นลิฟต์
ผมก็ได้เจอน้องสาวนักศึกษาน่ารักโคตรคนนึงขึ้นลิฟต์มาพร้อมกับผมสองต่อสองแถมยังข
แค่ครั้งแรกที่เจอก็เล่นเอาหัวใจผมเต้นไม่ค่อยเป็นจังหวะเสียแล้ว
พอออกจากลิฟต์ผมก็ให้เธอเดินออกก่อน ตามประสาชายไทยที่ดี
(แต่ที่จริงกะจะแอบดูว่าเธออยู่ห้องไหนอยู่แล้วต่างหาก)
แล้วโคตรจะโชคดีไม่น่าเชื่อขึ้นไปอีกเมื่อพบว่าเธอ อยู่ห้องข้างผมนี่เอง
ก่อนเธอจะเข้าห้องเธอเหลือบสายตามาทางผมจังหวะที่กำลังจะไขกุญแจพอดี
ผมก็เลยได้โอกาสส่งยิ้มผูกมิตรเอาก่อนแต่ยังไม่ทันได้ชวนคุยรักษาลุคฯเอาไว้ก่อน
กลัวเธอจะเห็นว่าเป็นพวกขี้หลี ห้องนี้ผมเคยเห็นมีผู้หญิงอีกคนหน้าตาหมวยๆ
ขาวๆ แล้วก็เคยส่งยิ้มไปให้แล้วเหมือนกัน แต่คนนี้เพิ่งจะเคยเห็นจริงๆผมมีแฟนอยู่แล้วคนนึงแต่อยู่ต่างจังหวัด
สองสามเดือนจะได้เจอกันซักครั้ง
ส่วนใหญ่ผมจะไปหาเธอเองมากกว่าไม่ก็ไปเที่ยวต่างจัดหวัดนัดเจอกันอีกที
ดังนั้นจึงไม่เป็นการยากที่ผมจะแอบไปกุ๊กกิ๊กกับสาวอื่นบ้างตามนิสัยชายไทยที่ดี(อิๆ)
วันต่อมา ผมรีบตื่นแต่เช้านั่งรออยู่แถวประตูห้อง
พอได้ยินเสียงเปิดประตูห้องข้างๆ ผมก็รอจังหวะนิดนึงเปิดตามออกไป
ปรากฏว่าเป็นสาวหมวยคนแรก
เลยถือโอกาสชวนคุยเลียบๆเคียงๆมาได้ว่าว่าน้องหมวยเธอชื่อแป๋ม
อยู่กับเพื่อนอีกคนชื่อหลิน มาจากจังหวัดเดียวกัน เรียนปี 4 ที่ ม.
เดียวกันแต่เรียนคนละคณะ วันนี้น้องหลินเธอไม่มีเรียนเลยไม่ได้ออกมาด้วย
ออกจากลิฟต์ก็แยกย้ายกันไป แต่แผนผมก็ขยับไปแล้วหนึ่งขึ้น
แต่ไม่กี่วันต่อมาผมก็ต้องมานั่งจ๋อยเมื่อพบว่าน้องหลินของผมเธอมีแฟนเป็นตัวเป็
แถมขึ้นมาหาเธอถึงห้องตอนแป๋มไม่อยู่อีกต่างหาก (สาวงามสมัยนี้จริงๆเล้ย)
ท่าทางเจ้าหนุ่มคนนั้นก็สำอางค์ไม่เบา ถ้าให้เดาคงมีหญิงติดตรึม
ไม่แปลกหรอกที่มันจะคาบน้องหลินไปละเลียดได้
(ตอนหลังมารู้ว่ามันขับบีเอ็มอีกต่างหาก)
เจอแบบนี้ก็คงต้องทำใจแห้วอีกตามฟอร์ม หันมาหวังแคลมน้องแป๋มแทน
ถึงหน้าตาจะไม่สวยคมแต่ก็น่ารักแบบหมวยๆขาวๆ
ก็ใช้แผนดักรอตอนเช้าชวนคุยไปเรื่อย
จนเริ่มจะสนิทสนมพอชวนลงไปกินข้าวเย็นแถวๆอพาทเม้นท์ได้
น้องหลินก็เคยลงมากินด้วยบ้าง ยิ่งได้คุยกับเค้าแล้วยิ่งเสียดาย
คนอะไรไม่รู้น่ารักไปหมด เสี... อ่านทั้งเรื่อง