ปลุกเป็นประจำทุกหกโมงเช้า มดค่อยๆลืมตาขึ้นมองเพดานห้อง ไม่คุ้นแฮะ...ที่ไหนเนี่ย นอนตั้งสติทบทวนความทรงจำอยู่ชั่วครู่ จึงนึกออกได้ว่าเมื่อวานมดเดินทางมาพักผ่อนที่ชายทะเลกับแฟนค่ะ มา
เที่ยวชายทะเลภาคตะวันออกอีกแล้ว เมื่อคืนไปนั่งฟังเพลงในคอกเทลเลาจ์ของโรงแรมจนดึก เผลอดื่มเยอะไปนิดนึง ก็เลยรู้สึกหนักหัวนิดๆ แฟนยังนอนหลับอยู่ข้างกาย แขนซ้ายวางพาดอยู่กลางลำตัว
ของมด ใบหน้ายามหลับของผู้ชายดูไร้เดียงสา เหมือนทารก อดไม่ได้จนต้องเอียงหน้าไปจุ๊บเขาให้หนึ่งที แม้จะยังค่อนข้างเช้าอยู่มาก แต่มดก็ตัดสินใจลุกขึ้นไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ สายน้ำอุ่นที่ไหล
ผ่านเรือนร่างที่เปลือยเปล่า ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายรับรู้สภาพแวดล้อมรอบตัวได้เป็นอย่างดี หยาดน้ำยังคงปรากฏให้เห็นบางส่วนของร่างกาย ขณะที่มดกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง เอกยังคงนอนหลับ
สนิทอยู่บนเตียง แสงสว่างยามอรุณส่องผ่านกระจกใสที่กั้นระหว่างระเบียงกับห้องนอนยั่วใจจนมดอดไม่ได้ที่จะต้องเลื่อนบานประตูกระจกออกไปยืนรับลมทะเลที่ระเบียงห้อง ทะเลยามเช้านี้สวยจัง...มด
คิดในใจ สายลมที่พัดผ่านผิวกายภายนอกผ้าขนหนูสีขาว ช่วยให้หยาดน้ำที่เกาะพราวตามร่างกายของมดแห้งเร็วขึ้น มองไปเบื้องล่าง มีคนออกมาเดินเล่นกันบ้างแล้ว ที่ตึกใกล้เคียงก็มีคนเปิดหน้าต่างยืน
มองทะเลกันหลายคน กี่เดือนแล้วนะ ที่มดกับเอก ไม่ได้ออกมาพักผ่อนแบบนี้ เอกกำลังมุ่งมั่นกับหน้าที่ใหม่ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้างาน ส่วนมดก็งานยุ่งไม่แพ้กัน มดยืนก้มตัวเล็กน้อย ใช้แขนทั้ง
สองข้างค้ำราวระเบียงไว้ สายตาก็มองเหม่อออกไปยังสายน้ำเวิ้งว้างสุดสายตาเบื้องหน้า นึกถึงครั้งสุดท้ายที่ได้ออกมาเที่ยวด้วยกันแล้วมดก็รู้สึกเสียววูบวาบไปตามร่างกาย ครั้งนั้น มดกับเอกแวะจอดรถ ลงมา
เปลือยกายจู๋จี๋กันบนพื้นที่ก่อสร้างริมทางหลวง ที่สำคัญก็คือมีเด็กหนุ่มช่างก่อสร้างหน้าตาดีแวะผ่านเข้ามาร่วมเป็นสักขีพยานอยู่ด้วย มดยังจำความรู้สึกที่ได้มีโอกาสเปลือยกายให้ชายแปลกหน้าได้เห็น และ
ปล่อยเขาได้สัมผัสลูบคลำร่างกายของมดขณะที่จู๋จี๋กับแฟนได้เป็นอย่างดี มันเป็นความเขินปนสะใจ และเสียวซ่านที่ยากจะลบเลือ... อ่านทั้งเรื่อง