ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยว่า ในที่สุดผมก็เป็นหนึ่งในพวก “ชอบเด็ก”
ความชอบนี้เกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ คิดว่ามันคงแทรกซึมเข้ามาทีละนิดจากน้องเมย์ เด็กข้างบ้านผมเอง ความจริงน้องเมย์ค่อนข้างเป็นเด็กกะโปโลที่ค่อนข้างเจ้าเนื้อ ผมเห็นแกเล่นเกะกะอยู่หน้าบ้านตลอด
มา ซึ่งบางครั้งทำให้ผมหัวเสียเพราะมาขวางทางนำรถเข้าบ้านของผม แต่เมื่อแกอายุเกือบครบสิบสอง ตัวแกก็ยืดออกกลายเป็นสาวน้อยฉบับกระเป๋าที่ทั้งหุ่นและหน้าตาจุ๋มจิ๋ม ความน่ารักของแกก็ทำให้ผมมี
ความรู้สึกเปลี่ยนไป เพราะหน้าตาแกดูมีน้ำมีนวลขึ้นและดันไปละม้ายเหมือนดาราเด็กที่โด่งดังและน่ารักคนนั้นเสียเหลือเกิน ผมจึงมีขนมติดมือมาฝากแกทุกเย็นเพื่อให้เห็นรอยยิ้มน่ารักของแก และได้รับ
ไหว้ขอบคุณจากมือน้อย ๆ ที่แสนจะนุ่มนิ่ม
จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมกลับมาพบน้องเมย์นั่งน้ำตาไหลอยู่หน้าบ้านของผม หลังจากเอารถเข้าไปเก็บแล้ว ผมจึงออกมาไต่ถามด้วยความแปลกใจ
“เป็นไรไปจ๊ะน้องเมย์” ผมถาม ทรุดตัวลงนั่งบนฟุตบาตข้าง ๆ แก
น้องเมย์อยู่ในชุดเสื้อเชิร์ตหลวม ๆ แขนสั้นพับแขนโชว์ต้นแขนเรียวยาว และกางเกงยีนส์ตัดขาสั้นแบบรุ่ยๆ กลิ่นตัวแบบเด็กที่กำลังจะโตผสมกับกลิ่นเหงื่อเด็กที่กำลังจะเป็นสาวโชยมา ใครที่เคยได้กลิ่นนี้
คงจะทราบนะครับว่าหอมเพียงใด
“หนูโดนล้อค่ะ เพื่อน ๆ ว่าหนูเรียนไม่เก่ง หน้าตาน่าเกลียดด้วย” เธอว่าพลางสะอื้น
ความจริงเธอก็เรียนพอใช้ได้ แต่โรงเรียนที่เธออยู่นั้นเป็นโรงเรียนค่อนข้างคุณหนู แข่งขันกันเยอะ ผมไม่แปลกใจเลยว่านี่คงเป็นวิธีทำร้ายจิตใจคู่แข่งของเด็ก ๆ แบบหนึ่ง
ผมเชยคางเธอขึ้นมา แล้วมองเข้าไปในดวงตากลมโต
“ไหนให้น้าดูหน่อยซิ เมย์ออกจะน่ารักนี่จ๊ะ พวกนั้นเขาอิจฉาเมย์มั้ง”
น้องเมย์ไม่ใช่เด็กน่าเกลียดเลยจริง ๆ แถมยังเป็นเด็กที่ดูหน้าตาดีเสียด้วย ใบหน้าหวานนวลเนียนบ่งบอกถึงความมน่ารักสดใส ซึ่งจะยิ่งทวีขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น
“จริงเหรอคะ” น้องเมย์ถามทั้งน้ำตาพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย
“น้าจะโกหกทำไมละ ก็น้องเมย์น่ารักจริง ๆ นี่นา ไม่งั้นน้าจะซื้อขนมมาฝากแล้วมานั่งคุยงี้เหรอ” ผมว่า “ยกเว้นตอนขี้แงแบบนี้นะ ดูซิ หน้าเลอะหมดเลย” ผมว่าแล้วยกมือโอบไหล่เธอเข้ามากอด
ผิวกายอันนุ่มนิ่ม และกลิ่นกายน้องเมย์ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะก้มลงจูบผมอันนุ่มนิ่มของเธอ ดีว่าช่วงนั้นไม่มีใครอยู่แถวนั้น ถึงมีก็คงคิดว่าเป็นลักษณะการเอ็นดูของผู้ใหญ่มากกว่... อ่านทั้งเรื่อง