พอแก้วที่ 5 ผ่านลงคอไปไม่นาน ร่างกายมันก็เริ่มอยากจะระบายเอาของเก่าออก ผมเลยจำเป็นต้องทำตามความต้องการของร่างกายก่อนจะปล่อยเรี่ยราดอยู่แถวนี้เพราะควบคุมตัวเองไม่ไหว หลังจากปลดปล่อยของเหลวเรียบร้อยแล้ว จังหวะที่ผมกำลังจะเดินไปนั่นก็ไปชนกับใครซักคนเข้า แต่ว่าผมไม่ทันได้มองเพราะมัวแต่เดินก้มหน้าก้มตาไม่สนในสิ่งรอบค้าง ไม่รู้ว่าคนที่โดนชนจะเป็นอย่างไรบ้าง ผมได้แต่ตะโกนขอโทษโดยที่ไม่หันไปมอง แล้วจ้ำกลับมายังเก้าอี้ของตัวเอง พร้อมกับสั่งเพิ่มอีก
ผมยังคงนั่งซึมกับความหลังเก่า ๆ ต่อไป สายตาก็จ้องมองน้ำสีชาอ่อนรสเข้มในมือ ไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครมานั่งข้าง ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ จนกระทั่งเสียงหวาน ๆ ลอยมากระทบโสตประสาทเข้า "นี่คุณ เป็นไรรึเปล่า รึว่าเมาแล้วนะ" ผมหันไปหาที่มาของเสียงนั้น ทีแรกที่เงยหน้าขึ้นไปมอง รู้สึกว่าเสื้อตัวนี้คุ้น ๆ ชอบกล แต่ความสงสัยนั้นก็มลายสิ้นไป เมื่อได้เห็นใบหน้าที่อ่อนหวานของเจ้าของเสียง ถึงแม้ว่าบรรยากาศในบาร์นั้นจะมีแค่แสงสลัว ๆ แต่รับรองได้ว่าผมตาไม่ฝาดแน่นอน และก็ไม่ใช่เพราะฤทธิ์สุราด้วยแน่ ๆ เพราะผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมเห็นนั้นงดงามมาก ราวกับรูปสลักหินของช่างฝีมือชั้นเยี่ยมในสมัยโบราณเลย เธอทำให้ผมลืมคนเก่า ๆ ที่ผ่านมาของผมไปจนหมดทุกคน แม้กระทั่งคนล่าสุดที่เพิ่งเลิกรากันไปก็หายใจจากความคิดผมอย่างรวดเร็ว เธอคงเห็นผมเงียบไปตอนที่เห็นหน้าเธอครั้งแรก เลยถามผมอีกครั้ง "เป็นอะไรรึเปล่า ตกใจอะไ... อ่านทั้งเรื่อง