สมัยอนุบาลดุน้องเชียร์ลั่น
“ คะแล้วหนูจะพยายามให้มากกว่านี้คะ..ขอโอกาสหนูปรับตัวอีกหน่อยนะคะ..หนูจะพยายามคะ .”
เด็กสาวตอบจ๋อยๆ เพราะตัวน้องเชียร์เองนั้นไม่ค่อยสันทัดกับบท ชก ต่อย เท่าไหร่อีกทั้งยังเป็นการแสดงครั้งแรกของเธออีกด้วย จึงทำให้เธอประหม่าอยู่ไม่น้อย
“ เอาเหอะ ..น้อง..ตอนพี่กำกับ จา พนม นะสั่งโดดมันโดด สั่งเตะมันเตะ ให้มันยกไฟมันก็ยก อย่างน้องเนี้ย...เฮ้อออ...”
“ ขอโทษคะ..” น้องเชียร์กล่าวคำขอโทษเป็นครั้งที่ 100 เห็นจะได้ เมื่อถูกผู้กำกับค่อนขอด และเอาเธอไปเปรียบกับ จา พนม ที่โดดแผล๋วๆ..ฝ่าโน้นฝ่านี้ทั้งๆที่วิ่งผ่านไปตรงๆก็ได้
หลังเลิกกองเวลาประมาณ 18.20 น.เห็นจะได้วันนี้กองเลิกเร็วเป็นพิเศษ เพระวันนี้น้องเชียร์ เธอเล่นผิดคิว ซัดดาราที่เข้าฉากร่วมกับเธอเบ้าตาแตกไป 2 คน กองไม่อาจถ่ายทำต่อไปได้เนื่องจากต้องนำตัว
ดาราเคราะห์ร้ายส่งโรงพยาบาลด่วนเพราะลูกตาเลื่อนจากเบ้า ขณะที่น้องเชียร์เดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปตามถนนสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นป้ายโฆษณา “ ฟิตยิม ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องสุขภาพ บุคลิกภาพ
เราพร้อมให้คำปรึกษาคุณ เชิญชั้น 3 ครับ.”
แม้ชื่อจะฟังดูแม่งๆแต่ตอนนี้น้องเชียร์กำลังเมากับบทโดดฝ่าดงอีโต้ที่ผู้กำกับให้เธอมาเป็นการบ้าน เธอจึงหวังว่าการได้ ออกกำลังกายอาจช่วยให้เธอสดชื่นได้บ้าง น้องเชียร์ไม่รอช้าเธอเดินตรงไปที่ชั้น 2
ของอาคารดังกล่าว เธอตรงเข้า
ไปที่เคาเตอร์รับคำปรึกษาทันที
“ อุ๊ย..นั่นน้องเชียร์ที่เป็นมีสถึกไทยแลนด์ปีที่แล้วใช่มั้ยครับ มีอะไรให้ผมช่วยหรือครับ.”
พนักงานหนุ่มรูปร่างล่ำสัน ทักน้องเชียร์อย่างเป็นกันเอง พร้อมลุกขึ้นขยับเก้าอี้ให้น้องเชียร์อย่างสุภาพ
“ เออ..คะ..ใช่คะ..คือหนูมีปัญหา คืองี้คะ..................................................................................”
น้องเชียร์นั่งลงเล่าเรื่องต่างๆ ระบายความอัดอั้นที่ต้อง เตะ ต่อย ลังกาหลังฝ่าดงอีโต้สุดคม ให้พนักงานหนุ่มฟัง
“ น้องเชียร์ครับ ทางเราเข้าใจปัญหาของน้องดีครับ น้องมาถูกที่แล้ว ปัญหาพวกนี้จะหมดไป ถ้าน้องใช้ นี่เลย
แอปโด่มิไนท์เซอร์ ด้วยกำลังสั่น 4 จั... อ่านทั้งเรื่อง