Episode II ลานา ราชินีแห่งดาวเคราะห์โลกตัดสินใจเพิ่มพลังพิเศษเพื่อดึงพลังซูเปอร์โนวามาต่อต้านการรุกรานของจอมทรราชย์ไซโตค็อต ตามคำเรียกร้องของสมาชิกสันนิบาตสุริยะจักรวาล แต่การเพิ่มพลังจะทำได้ก็โดยการมีสัมพันธ์ทางเพศกับคนในครอบครัว และครอบครัวของเธอขณะนี้ก็มีเพียงเธอกับอินทากนลูกชายวัย 16 ปี และวีว่าลูกสาววัย 14 ปี เท่านั้น ลานาเลือกสถานีอวกาศปิรามิดที่อยู่ระหว่างดาวพูลโตและดาวเซ็ดนาซึ่งเป็นดาวเคราะห์ดวงล่าสุดของระบบสุริยะจักรวาลเป็นสถานที่เพิ่มพลัง ด้วยเหตุผลว่ารูปทรงปิรามิดของสถานีอวกาศจะช่วยดึงดูดพลังทั้งมวลแห่งจักรวาลอันเป็นภูมิปัญญาของชาวฮิวมานอยล์ดึกดำบรรพ์เช่นที่สร้างปิรามิดในอียิปต์ อีกประการหนึ่งสถานีอวกาศดังกล่าวอยู่ห่างไกลจากศูนย์กลางของระบบสุริยจักรวาลมากดาวพูลโตและดาวเซ็ดนาก็ไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไรทางยุทธศาสตร์เมื่อเทียบกับดาวอื่นๆ อย่างโลก ดาวอังคาร ดาวเสาร์ หรือดาวพฤหัส ดังนั้นการจึงไม่เป็นเป้าหมายการโจมตีของไซโตค็อต และที่สำคัญระหว่างการเพิ่มพลัง ลานาและลูกของเธอจะอ่อนแอไม่สามารถใช้พลังในการต่อสู้ได้จึงต้องทำเป็นการลับ ประมุขสันนิบาตตกลงใจจัดกองกำลังพิเศษเพื่อคุ้มครองสถานีอวกาศปิรามิดระหว่างการเพิ่มพลังของลานา รูปแบบในการเพิ่มพลังดูจะเป็นเรื่องลำบากใจที่สุดสำหรับลานา เธอทนความละอายไม่ได้ที่จะต้องมีอะไรกับลูกตัวเองไม่ได้ ในที่สุดเธอจึงเอาตัวเองไว้เป็นทางเลือกสุดท้าย ลานาตัดสินใจที่จะให้อินทากอนและวีว่าเป็นผู้เพิ่มพลัง หวังว่าเมื่อทั้งสองเพิ่มพลังแล้วรวมกับพลังของเธอที่มีอยู่จะเพียงพอที่จะดึงพลังซูเปอร์โนวาได้ หากไม่พอจึงจะเอาตัวเธอเป็นผู้เพิ่มพลังในภายหลัง เมื่อลานาบอกเรื่องนี้กับอินทากอน และวีว่าพร้อมทั้งย้ำถึงความจำเป็นในการเสียสละ ดูทั้งสองตกใจมาก แต่ลานาไม่ทันมองเห็นแววประหลาดพิสดารแวบหนึ่งในสายตาของอินทากอน
ยานควอตัมแอทแทค - กองบัญชาการรบของจักรวรรดิ์โมนาไซ มีขนาดใหญ่เท่ากับสนามฟุตบอลราว 10 สนามรวมกัน เป็นยานแม่ที่ใช้บัญชาการเข้ายึดระบบสุริยะครั้งนี้ ที่นั่งบัญชาการนั่งไว้ด้วยบุรุษร่างใหญ่ยักษ์รูปร่างราวกับมวยปล้ำฝรั่งอยู่ในชุดแนบเนื้อสีน้ำเงินวาวโชว์มัดกล้ามบึกบึนทั่วร่าง ที่แผงไหล่และหลังมีลายคล้ายเกล็ดปลาขึ้นอยู่ ศรีษะของชายร่างยักษ์นี้ครอบไว้ด้วยมีหน้ากากโลหะสีเงินหล่อเป็นรูปจมูกและปากแต่ไม่เจาะรู ช่องตาเจาะเป็นแถบสี่เหลี่ยมมองเห็นเป็นเง... อ่านทั้งเรื่อง