จนมาถึงวันหนึ่ง เราได้ไปเที่ยวกันที่สวนสยาม วันนั้นแฟนผมแต่งตัวน่ารักแบบหวานๆตามแบบของเธอ
โดยใส่เป็นเสื้อยืดรัดรูปสีขาว กับกระโปรงยาวประมาณเข่าแบบบานๆสีฟ้าอ่อน ด้วยความที่เป็นคนขาวทำให้ใส่อะไรก็ดูดีไปหมด เราไปกินข้าวกันที่ในสวนสยาม ขณะที่กินข้าวกันอยู่นั้น เอ๋กระซิบบอกกับผมว่า ผู้ชายที่นั่งโต๊ะตรงกันข้ามมองมาที่เธอบ่อยมาก ผมเลยแกล้งหยอกไปว่า เค้าคงมอง หวอ เอ๋มั้ง
“บ้า ... ใครจะไปทะลึ่งเหมือนพี่ อีกอย่างเอ๋ก็นั่งไข่วห้างด้วยเค้ามองไม่เห็นหรอก” เอ๋ตอบผมมาพร้อมกับ ค้อนน้อยๆ
“แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ” ผมกระเซ้าต่อไป ในใจก็คิดว่า แล้วผู้ชายคนนั้นมันมองอะไรว่ะ ชักอยากรู้เหมือนกัน
“ก็มัน ร้อนนี่นา ไม่รุ...ไม่คุยด้วยแล้ว คนทะลึ่ง” เอ๋ทำหน้างอนๆ แล้วก็กินข้าวต่อไป แต่ความจริงผมรู้ว่าเธออายมากกว่า เพราะปกติเธอเป็นที่ขี้อายอยู่แล้ว ผมเลยบอกกับเอ๋ เดี๋ยวไปห้องน้ำก่อน ตอนกลับออกมาผมเดินอ้อมไปทางด้านหลังผู้ชายคนที่นั่งตรงกันข้ามกับเอ๋ เพราะอยากจะรู้ว่า เค้ามองอะไร จนผมเดินมาถึงด้านหลังผู้ชายคนนั้น ผมก็ได้เห็นในสิ่งที่เค้ามองอยู่ ผมรู้สึกเสียวแปล๊บในใจยังไงบอกไม่ถูก
แต่ที่แน่นๆน้องชายที่หลับอยู่ในกางเกง ขณะนี้มันเริ่มตื่นขึ้นมาแล้ว เอ๋เธอนั่งไขว่ห้างจริงๆครับ แต่ชายกระโปรงด้านล่างนี่สิ มันห้อยลงไปมาก สิ่งที่ผมเห็นตอนนั้น ก็คือ สาวผิวขาวหน้าหน้ารัก กำลังนั่งก้มหน้าก้มตากินข้าว ขาที่เรียวขาวข้างหนึ่งวางซ้อนบนขาอีกข้าง ชายกระโปรงสีฟ้าห้อยลงสู่เบื้องล่างตามแรงโน้มถ่วงของโลก เผยให้เห็นถึงความขาวใต้ท้องขาที่เนียนเรียบ มองลึกเข้าไปได้ถึงแก้มก้นขาวที่พ้นขอบกางเกงในสีเขียวอ่อน ออกมา
ผมเดินกลับมาที่โต๊ะ กำลังตัดสินใจว่าจะบอกเอ๋ดีมั้ยว่าให้นั่งระวังกว่านี้ หรือจะทำเฉยๆไว้ ในที่สุดผมก็ได้คำตอบ ผมตัดสินใจขยับเก้าอี้ที่นั่ง เลื่อนไปทางด้านข้าง เพื่อไม่ให้ตัวเองนั่งบังวิถีสายตาของชายคนนั้น กว่า 10 นาที ที่ผมปล่อยให้ชายแปลกหน้า นั่งมองในร่มผ้าของแฟนผม น้องชายในกา... อ่านทั้งเรื่อง