อาบฤทธิ์เงยหน้ามองสำรวจอาคารที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า
ที่แห่งนี้แหละจะเป็นที่ทำงานแห่งแรกในชีวิตการเป็นแพทย์ของเขา
ตัวอาคารเป็นแบบสมัยใหม่สูงสิบกว่าชั้น
ทาสีขาวนวลสลับสีเขียวอ่อนดูแล้วเย็นตาเย็นใจ แสงแดดอ่อน ๆ
ยามเช้าตรู่สาดกระทบกระจกหน้าต่างสะท้อนประกายระยิบระยับรับกับต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นเขียวขจีรอบอาคาร
ด้านล่างของอาคารมีบันไดลาดขึ้นไปถึงประตูกระจกอัตโนมัติ ผู้คนเดินเข้า ๆ ออก
ๆ อาคารไม่ขาดสาย มีทั้งพยาบาลในชุดขาวสะอาดที่ประคองคนป่วย
ญาติที่มาเยี่ยมไข้ และเด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นหัวเราะกันอย่างไร้เดียงสา
เขาสูดลมหายใจลึก ๆ แล้วก้าวขึ้นบันไดไป
ภายในอาคารสว่างไสวด้วยแสงไฟนีออนบนเพดาน
เขามองซ้ายมองขวาแล้วก็เห็นบูธประชาสัมพันธ์ที่อยู่ข้างประตู
“สวัสดีครับ” เขาทักเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่นั่งประจำอยู่ที่เคาน์เตอร์
เธอเงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มให้เขา “สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ดิฉันช่วยไหมคะ”
หัวใจอาบฤทธิ์หยุดเต้นไปชั่วขณะเมื่อเห็นใบหน้าหวาน ๆ ตาใส ๆ และผมยาวสลวย
“เอ้อ ผมมีนัดกับท่านผู้อำนวยการน่ะครับ
แต่ผมเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกเลยไม่ทราบว่าห้องท่านอยู่ตรงไหน
ไม่ทราบว่าคุณพอจะช่วยบอกทางได้ไหมครับ”
“ได้สิคะ เดินตรงไปนะคะ แล้วจะเห็นลิฟท์อยู่ด้านขวา
ห้องท่านผู้อำนวยการอยู่ที่ชั้น 10 ค่ะ มีป้ายบอกอยู่ที่หน้าห้องค่ะ”
เธอตอบเสียงอ่อนหวาน ท่าทางจะเป็นคนเหนือ อาบฤทธิ์คิด
เขาขอบคุณเธอและฉวยโอกาสมองสำรวจเรือนร่างเธอเก็บไว้เป็นข้อมูลเผื่อผูกสัมพันธ์ต่อในภายหน้า
เขาเดินไปตามทางที่เธอบอก
ในใจก็ยังคิดถึงประชาสัมพันธ์สาวสวยคนนั้นเพลินจนไม่ทันระวัง
ปะทะชนกับคนที่เดินตัดมาจากทางเดินด้านซ้ายเต็มรัก ได้ยินเสียงว้ายดังลั่น
ตัวเขาเองก็ผงะถอยไปจากแรงกระแทกแต่ไม่ได้เจ็บอะไร แต่คนที่โดนเขาชนนั่นสิ
ล้มลงไปนอนแผ่หราอยู่กับพื้น เอกสารในมือหลุดร่วงกระจายเกลื่อนพื้น
อาบฤทธิ์รีบก้มลงไปช่วยพยุงพยาบาลสาวที่ถูกเขาชนให้ลุกขึ้นมา
เธอยังมีทีท่ามึนงง
“ขอโทษด้วยครับ ผมผิดเองที่เดินไม่ระวัง คุณเจ็บตรงไหนรึเปล่าครับ”
เขาถามด้วยความเป็นห่วง
สายตาก็กวาดมองไปทั่วร่างฝ่ายตรงข้ามเพื่อดูว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า
“มะ...ไม่เป็นไรมากค่ะ แค่มึน ๆ เท่านั้นเอง ขอโทษค่ะ ดิฉันไม่ทันได้ดูให้ดี
กำลังรีบ ๆ....ตายแล้ว! ชาร์ทผู้ป่วยกระจายหมดเลย”
เธอรีบก้มลงเก็บเอกสารบนพื้... อ่านทั้งเรื่อง